หนังว่าด้วยเรื่องราวของ Nathalie สาวใหญ่เธอเป็นอาจารย์สอนปรัชญา มีสามีเป็นอาจารย์สอนปรัชญาด้วยเช่นกัน เธอและสามี มีลูกด้วยกัน 2 คน และ เธอมีแม่ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรง อยู่มาวันหนึ่ง สามีของเธอมาสารภาพว่ามีผู้หญิงอื่น ทำให้เธอตัดสินใจแยกกันอยู่กับสามี ส่วนแม่ของเธอนับวันก็ทำตัวเรียกร้องความสนใจมากขึ้นเธอต้องปลีกเวลามาดูแม่อยู่เสมอ ประกอบกับที่มหาลัยที่เธอสอนก็มีนักศึกษาประท้วงเรื่องการเมืองทำให้การเรียนการสอนต้องติดๆขัดๆ ยิ่งทำให้เธอเครียด เธอมีสิ่งหนึ่งที่พอจะทำให้เธอยิ้มได้ และมีความสุขคือการได้เจอ และสนทนากับ Fabien ลูกศิษย์คนโปรดที่อาศัยอยู่ในป่าเพื่อเขียนหนังสือปรัชญา .. หนังปล่อยให้คนดูเปรียบเสมือนบุคคลที่ three คอยดูชีวิตของ Nathalie ไปเรื่อยๆ ตัวหนังไม่ได้บีบคั้นหรือบังคับคนดู ให้เข้าถึงหรือตัดสินในสิ่งที่ Nathalie ทำ แต่เราจะเข้าถึงได้ในสิ่งที่ ตัวละครแสดงออกมา เราจะเห็นได้ว่า Nathalie เป็นผู้หญิงที่เชื่อมั่นในตัวเองสูง เธอมักไม่สนใจเสียงรอบข้างที่คอยทัดทาน หรือ เรียกร้องในสิ่งที่เธอสามารถผ่อนปรนเสนอให้ได้ แต่อีกนัยหนึ่งเราอาจมองต่างว่า สิ่งที่เธอเป็นไม่ใช่ว่าเธอเป็นคนที่เชื่อมั่นในตนเอง แต่อาจเป็นเพราะเธอเหนื่อยที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆรอบตัว ที่กำลังจะเกิดขึ้น
.. แต่ถึงกระนั้น แม้ว่า บทหนังจะทำให้เธอดูเหมือนเป็นเป็นคนไม่เอาอะไรไม่สนใจใคร แต่เรากลับสงสารเธอและเอาใจช่วยเธออย่างน่าประหลาด คงเป็นเพราะเธอแบกรับความทุกข์ความเครียดมากเกินที่มนุษย์ปกติพึ่งจะได้รับ ซึ่งเป็น ” อนาคต ” ที่ Nathalie ไม่ได้วาดฝันไว้ ในใจลึกๆ เธอไม่อยากเป็นแบบเหมือนแม่ของเธอ ที่ชีวิตล้มเหลว จนกลายเป็นโรคซึมเศร้า แต่เธอหารู้ไม่ว่า แม่ของเธอนี่แหละที่จะเป็นแสงสว่างนำทางเธอในบั้นปลายชีวิต ..